ช่วงเวลาที่เราเดินตามเส้นทางของชีวิตจนถึงวันนี้ อายุเกือบจะ 50 ปีล่ะ เราต่างมีภาระกิจหน้าที่การงานหลังจากเรียนจบ ห่างไกลเพื่อน ห่างไกลครูบาอาจารย์ จนถึงวันนี้ชีวิตได้ระหกระเหิน จากบ้านเกิดเมืองนอน จากครอบครัวพ่อแม่ญาติพี่น้อง บินลัดฟ้ามาใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกเมืองนาซึ่งในชีวิตก็ไม่เคยคิดไม่เคยฝันที่จะมาอยู่ไกลโพ้นถึงขนาดนี้
...และแล้ววันนึงเหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิตที่ได้พบอาจารย์ซึ่งเคยสอนเราสมัยเรียนมัธยมเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ที่น่าตื่นเต้นและดีใจที่สุด คือ เรามาเจอกัน ณ ทวีปที่กว้างใหญ่ไพศาล หากันเจอได้ไง ?
ความรู้สึกแรกที่เจอกัน ระหว่างลูกศิษย์กับอาจารย์ โผลเข้ากอดด้วยความดีใจ ทักทายกัน ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "อ้อมกอดและรอยยิ้มแห่งความสุขนี้... ช่างอบอุ่นยากจะที่บรรยายออกมาเป็นตัวอักษร"
ครู >>> ผู้ให้ >>> ให้วิชาความรู้ ไปสู่จุดหมายปลายทาง และพบกับความสำเร็จในชีวิต เป็นคนดีของสังคม
ครู >>> ไม่ใช่แค่"ครู" >>> เป็นทั้งแม่คนที่สอง และเป็นเพื่อนแท้ ที่ไม่เคยคิดทำลาย ไม่เคยซ้ำเติม คอยห่วงใยติดตามข่าวคราวลูกศิษย์อยู่เสมอ(ลูกศิษย์จะคิดถึงครูบ้างไหมหนอ?)
ยกสองมือขึ้นประนมกราบวันทา
ขอขมาคุณครูผู้พร่ำสอน
ผู้ถ่ายทอดวิชาให้คนจร
ผู้สั่งสอนลูกศิษย์ให้คิดเป็น
ขอขมาคุณครูผู้พร่ำสอน
ผู้ถ่ายทอดวิชาให้คนจร
ผู้สั่งสอนลูกศิษย์ให้คิดเป็น
จากคนที่ไม่เคยมีความรู้
ถูกคุณครูผู้ใจดีคอยเคี่ยวเข็ญ
คอยแนะนำตักเตือนอย่างใจเย็น
ซ้ำยังเป็นดั่งเพื่อนเมื่อทุกข์ใจ
ถูกคุณครูผู้ใจดีคอยเคี่ยวเข็ญ
คอยแนะนำตักเตือนอย่างใจเย็น
ซ้ำยังเป็นดั่งเพื่อนเมื่อทุกข์ใจ
ไม่ทอดทิ้งลูกศิษย์ยามท้อแท้
ท่านช่วยแก้ปัญหาให้สดใส
ความมืดมิดมืดหม่นผ่านพ้นไป
ด้วยน้ำใจไหลหลั่งดั่งสายธาร
ท่านช่วยแก้ปัญหาให้สดใส
ความมืดมิดมืดหม่นผ่านพ้นไป
ด้วยน้ำใจไหลหลั่งดั่งสายธาร
ความเมตตาที่คุณครูท่านมอบให้
ทำให้ใครพร้อมใจกันเรียกขาน
แม่พิมพ์ของชาติทุกคนเป็นพยาน
ทุกวันวานกราบกรานบูชาครู
ทำให้ใครพร้อมใจกันเรียกขาน
แม่พิมพ์ของชาติทุกคนเป็นพยาน
ทุกวันวานกราบกรานบูชาครู
ขอบพระคุณอาจารย์ทั้งสองท่านที่ไม่ลืมลูกศิษย์คนนี้ค่ะ
อาจารย์ประภาและอาจารย์จินดา @ นอร์ธ แคโรไลน่า สหรัฐอเมริกา
หลงไหลธรรมชาติที่นี่ซะแล้ว
มีต่อ ตอน ๒
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น